วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ร่วมเพิ่มพูนธรรมเนียม “หยุดคลิก“

เทรนด์การ เสพข่าว ของคนแบบใหม่ และกลุ่มคนที่อาจไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่หันมาใช้อุปกรณ์ หรือไม่ก็ดีไวซ์อื่น ๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเลต ในการอ่านข่าวกำลังเป็นที่นิยม
ทันทีที่ใช้อุปกรณ์ทันระยะเวลาเสพข่าวแล้ว ช่องทาง ที่จักเห็นข่าว สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมอ่านข่าวอยู่ 2 ด้าน คือ แบบเข้าไปในเว็บไซต์ข่าวของสื่อหรือว่าสำนักข่าวที่สนใจโดยตรง กลุ่มนี้ยังอ่านข่าวจากสื่อกระแสหลัก รวมถึงกลุ่มซื้ออ่านแบบอิเล็กทรอนิกส์จ่ายรายเดือน
src=http://p4.isanook.com/hi/0/ud/278/1394089/untitled-1.jpg
แต่การอ่านข่าวอีกกระแสหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยม คือ อ่านข่าวแบบอิสระตามโซเชียลมีเดีย อาทิ บนฟีดเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม แม้กระทั่งอ่านตามกลุ่มห้องแชตในไลน์ในโทรศัพท์มือถือ
นี่เองจึงเกิดเป็นวัฒนธรรมการอ่านข่าวแบบ คลิก ของคนยุคโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มที่อ่านข่าวลักษณะนี้แยกย่อยได้อีกว่า กลุ่มหนึ่งสนใจข่าวเชิงฮาร์ดนิวส์ กับอีกกลุ่มสนใจข่าวแบบโซเชียลฯ คือ ไม่ได้สนใจข่าวไหนเป็นพิเศษ แต่อ่านสิ่งที่เป็นกระแสด้วยกันถูกแชร์มา
จนกระทั่งระบบโซเชียลมีเดียใช้วิธีประมวลผลพร้อมกับจับกระแสข่าวที่ถูกแชร์ ถูกแสดงความเห็น กดไลก์มาก ทำให้พบเห็นเตะตาง่ายสุด ทำให้ผู้ใช้โซเชียลฯเห็นข่าวนั้นได้มากกว่าข่าวเชิงคุณภาพที่อาจมีคนสนใจน้อย แน่นอนว่า ข่าวจำพวกสีสัน และอื้อฉาวจึงตอบโจทย์กระแสโซเชียลมีเดียนั่นเอง
ด้วยกันจนถึงยิ่งเห็นง่าย ก็ยิ่งถูกกระพือไปง่าย ทำให้เห็นปรากฏการณ์ข่าวที่ไม่น่าจะเป็นข่าวโด่งดังบนสื่อกระแสหลักได้เลย อย่างข่าว เหนียวไก่หาย
ในโลกโซเชียล หลายครั้งที่ข่าวที่ถูกกดคลิกอ่านมากที่สุด กลายเป็นข่าวที่ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย (เว้นบางกรณีที่ข่าวฮาร์ดนิวส์มีแรงพอจักกระเทือนสังคมได้) บางข่าวก้าวข้ามจากการรายงานข่าวไปเป็นการยุยงก็มี
นี่จึงเป็นที่มาของไอเดียที่น่าสนใจคือ แนวคิด หยุดคลิก เพื่อหยุดวงจรข่าวไม่เป็นสาระ เป็นการหยุดที่ตัวคนอ่าน ไม่ได้หยุดที่คนรายงานข่าวนั่นเอง
ไอเดียนี้มาจาก แซลลี่ คอห์น นักวิเคราะห์ข่าวอิสระชาวอเมริกันที่แนะนำว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข่าวใด ๆ ที่พยายามจะให้คุณเสียสติ ในทางกลับกัน ควรใช้การคลิกอันมีค่าของคุณกดเข้าดูข่าวที่คุณเชื่อถือได้อย่างแท้จริง
เธอพูดสั้น ๆ แต่ชัดเจนว่า ไม่ชอบโดนล่อให้คลิกก็จงอย่าคลิก
ผู้อ่านต้องตระหนักให้ได้ว่า การคลิก คือการกระทำเชิงสาธารณะ เช่นเดียวกับทุกสิ่งที่เขียนในอินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งสาธารณะ แปลว่านับวันผู้อ่านก็เปรียบเสมือน สื่อ ทั้งหมดนั่นเอง
คราวคิดได้ว่า พวกเราคนอ่านก็คือสื่อทั้งหมดด้วย ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคลิก ไม่คลิกอ่านข่าวโคมลอย ข่าวกระแสที่ไร้สาระจนไม่น่ากดส่งต่อ เพราะว่าทันทีที่ทำให้ข่าวอย่างนั้นมียอดคลิกมาก ก็ยิ่งส่งเสริมข่าวแบบนั้นให้เป็นกระแสอีกเช่นกัน
แซลลี่เอื้อนแบบชัดเจนเลยว่า เลิกคลิกลิงก์อ่อยเหยื่อ ไม่ใคร่ได้ดู ก็อย่าคลิก ถ้าไม่ชอบการแสดงความเห็นสาดโคลนไม่จบก็หยุดคลิก เรียกว่าไม่ต้องสุมไฟ ถ้าผู้ชนะคือผู้ที่ถูกคลิกมากที่สุด เราต้องเปลี่ยนด้วยคลิกของเรา ให้ถือว่าการคลิกเป็นการกระทำอย่างเปิดเปรย พร้อมทั้งต้องคลิกอย่างรับผิดชอบ แซลลี่ คอห์นสรุป
ฟังแล้วแม้จักทำยากมาก ก็เพราะว่าหลักสื่อสารมวลชน คำว่า Human Interest ยังใช้ได้อยู่ ด้วยข่าวสารที่ไร้สาระแต่พาดหัวเร้าใจชวนให้กดคลิก
แต่ขอเสริมว่าแม้จะกดคลิกอ่านแล้ว ก็ต้องอ่านแบบมีวิจารณญาณ ถ้าเจอข่าวสารที่ดูหมิ่นเหม่กับข้อเท็จจริงๆ อย่าเพิ่งเชื่อเหรอรีบส่งแชร์ต่อ การคิดว่าแค่แชร์ต่อไม่ได้เสียหาย แท้จริง ๆ แล้วเรากำลังอยู่ในวงจรกระพือข่าวผิด ทำให้สังคมสับสน ถ้าหากไม่แน่ใจสิ่งที่อ่านก็จงอย่าแชร์ แต่จงหาข้อเท็จนัก ไม่ก็รอที่จักมีคำตอบที่น่าเชื่อถือมาอธิบายจะดีกว่าส่งแชร์ถัดไป
วิจารณญาณสำคัญมากเหตุด้วยการเสพข่าวแบบคลิกแบบแชร์ในโลกวันนี้
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ระดับโลกมือถือประเทศจีน ที่เลิศ ประจำปี 2014 มีรุ่นใดบ้าง มาจ้องกัน

เกี่ยวกับ ตลาดสมาร์ทโฟน ในปัจจุบัน นอกจากจะมีแบรนด์ที่คุ้นหู อย่าง Apple, Samsung, HTC, Sony และแบรนด์อื่นๆ ที่ขึ้นแท่น มือถือยอดฮิต แล้ว ปี 2014 นี้
ถือว่า มือถือจีน มาแรงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากยอดพรีออเดอร์ พร้อมด้วยยอดขายหลายๆ รุ่น ที่เป็นได้ตีตลาดได้ในหลายๆ ประเทศนั่นเอง นอกจากนี้ มือถือจีน ยังขึ้นชื่อในเรื่องของ สเปคแรง แต่ราคาถูกกว่า ตราบใดเทียบกับ มือถือ ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน มาดูกันครับว่า  ที่ได้รับความนิยมที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด ในปี 2014จักมีรุ่นอะไรกันบ้าง
Huawei Ascend G7
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169887261.jpgด้วย Huawei Ascend G7 นั้น นอกจากจะมาพร้อมกับ ดีไซน์หรูหรา ด้วยตัวเครื่องแบบอะลูมิเนียมแล้ว ในส่วนของสเปค ก็ยังแรงไม่ปราชัยกัน เพราะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 720p, ชิปเซ็ต Snapdragon 610 แบบ 64-bit, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, รองรับ 4G LTE กับรัน Android 4.4 KitKat ซึ่งราคาของรุ่นนี้ อยู่ที่หมื่นต้นๆ เท่านั้นเอง
Xiaomi Redmi 1S
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169887412.jpgXiaomi Redmi 1S สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอด ที่ตอกย้ำความแรงด้วยยอดขายในหลายๆ ประเทศ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล, RAM 1 GB, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.6 GHz, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 8 GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2000 mAh
vivo XShot
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169887543.jpgvivo แบรนด์มือถือสัญชาติจีน ที่เริ่มทำมาตีตลาดในไทยกันบ้างแล้ว กับ vivo XShot ที่โดดเด่นในเรื่องของ กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/1.8, รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K และโหมดการถ่ายภาพ Slow-Motion 120fps ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง นอกจากนี้ ยังมีไฟแฟลชที่กล้องด้านหน้าอีกด้วย
ส่วนสเปคอื่นๆ ของ vivo XShot ก็ถือว่า ยอดเยี่ยมไม่พ่ายกันครับ ก็เพราะว่ามาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080p, ชิปเซ็ต Snapdragon 800, RAM 2 GB ส่วนรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 801 จักมาพร้อม RAM 3 GB เลยทีเดียว
Xiaomi Redmi Note
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169886234.jpgติดอันดับมาเป็นรุ่นที่สอง เหตุด้วยแบรนด์ Xiaomi กับ Xiaomi Redmi Note แฟบเล็ตหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 720p, ชิปเซ็ต MediaTek MT6592 แบบ Octa-Core Processor และกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล ในสนนราคาไม่ถึงหมื่น
UMi Zero
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169886375.jpgเพื่อแบรนด์นี้ คงยังไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไหร่ กับ UMi Zero สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับ ตัวเครื่องบางแทบ 6.4 มิลลิเมตร, ชิปเซ็ต MediaTek MT6592T, RAM 2 GB, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อม Dual-LED Flash กับรัน Android 4.4 KitKat
Huawei Ascend Mate 2
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169886526.jpgเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูคนไทยอยู่แล้ว กับ Huawei Ascend Mate 2 กับเป็นรุ่นแรกของค่าย ที่บุกตลาดมือถืออเมริกาอย่างเป็นทางการ โดย Huawei Ascend Mate 2 นั้น มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.6 GHz พร้อมด้วยรองรับ 4G LTE อีกด้วย
OnePlus One
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169888137.jpgแม้จักเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่ก็ทำการตลาดจนเป็นชื่อที่ติดหูคนทั่วโลกไปแล้ว กับ OnePlus One ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 5.5 นิ้ว พร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 801 โดยมีราคาจำหน่ายในต่างประเทศ แค่ $299 เท่านั้นเอง
Meizu MX4
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169886858.jpgไม่พลาดที่จักโผด้วยเหมือนกัน กับ Meizu MX4 ที่เรียกได้ว่า เป็นรุ่นที่ถูกใจใครหลายๆ คนด้วยเช่นกัน เพราะมาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek MT6595 แบบ Octa-Core Processor, RAM 2 GB, กล้องด้านหลัง 20.7 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งแบตเตอรี่ขนาด 3100 mAh ใช้งานได้จุใจตลอดวัน
OPPO Find 7
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_14169887019.jpgสำหรับ OPPO Find 7 นั้น เรียกได้ว่า โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงสเปคเลยทีเดียว เพราะมาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 801, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB พร้อมกับกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล ในมูลค่าหมื่นกลางๆ
Lenovo Vibe Z2 Pro (K920)
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698871710.jpg
หลายๆ ท่านอาจจักยังไม่ทราบว่า เลอโนโว แน่แท้ๆ แล้วเป็น แบรนด์จีนครับ เพราะ Lenovo Vibe Z2 Pro (K920) รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 801 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อม OIS, รองรับ NFC ด้วยกันแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh
ZTE Nubia Z7
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698887711.jpg
สำหรับ ZTE Nubia Z7 นั้น มาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 801, RAM 3 GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ Sony Exmor RS พร้อมกับระบบกันภาพสั่น OIS นอกจากนี้ ยังรองรับ 4K UHD video อีกด้วย
Huawei Honor 6
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698889012.jpg
Huawei Honor 6 มาพร้อมกับหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin K920 แบบ Octa-Core Processor, RAM 3 GB และกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล ในราคาหมื่นต้นๆ เช่นกัน
Huawei Ascend Mate 7
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698890413.jpg
ได้ฤกษ์เริ่มในไทยไปพอไม่นานมานี้ กับ Huawei Ascend Mate 7 แฟบเล็ตหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ที่โดดเด่นในเรื่องของ วัสดุตัวเครื่องแบบโลหะนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 925, RAM 2 GB, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ด้วยกันแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh เคาะค่าในไทยแล้วที่ 16,990 บาท
OPPO N3
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698892414.jpg
มือถือกล้องหมุนได้รุ่นต่อยอดกับ OPPO N3 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 801 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz, RAM 2 GB พร้อมทั้งกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่สามารถหมุนสลับมาเป็นกล้องด้านหน้าได้
Xiaomi Mi 4
src=http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201411/images_141698893315.jpg
เพราะว่า Xiaomi Mi 4 นั้น ถือว่า เป็นมือถือจีนที่ถูกจับตามองมากที่สุด ณ ในเวลานี้ครับ เพราะว่านอกจากจะมาพร้อมกับ ตัวเครื่องแบบโลหะแล้ว ในส่วนของสเปคก็ถือว่า น่าสนใจไม่จำนนกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอกว้าง 5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 801 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, RAM 3 GB พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3080 mAh ซึ่งปัจจุบัน Xiaomi ขึ้นแท่นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกแล้วอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com
สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com


ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com