วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

3 สรรพคุณที่น่าศึกษากับ Samsung Galaxy Alpha

เปิดประสบการณ์อีกระดับด้วย 3 คุณสมบัติที่น่าสนใจกับ 
เชื่อว่าน่าจักมีผู้ใช้งานหลายๆ คนน่าจักได้มีโอกาสไปสัมผัส พร้อมด้วยได้เป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Alphaสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ที่เรียกว่า Metal Frame ตัวแรกของ Samsung ซึ่งเป็นดีไซน์ที่มีความหรูหรา พร้อมกับดูพรีเมียม กันไปบ้างแล้ว
นอกจากจักโดดเด่นด้านรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เจ้า Alpha นี้ยังมีฟังก์ชั่นและความรอบรู้ที่น่าสนใจไม่แพ้รูปลักษณ์อันหรูหราของเจ้าตัวกันเลยที่เดียว ส่วนจักมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นติดตามได้จากด้านล่างนี้เลย
Design
Samsung Galaxy Alpha มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ที่มาพร้อมความเรียบง่าย แต่แฝงกลิ่นอายความหรูหราในระดับพรีเมียมที่เรียกว่า Metal Frame ซึ่งเป็นแนวดีไซน์แบบใหม่ของ Samsung ที่ริเริ่มนำมาใช้บน Galaxy Alpha เป็นรุ่นแรกของ Samsung
Metal Frame คือดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องแบบใหม่ที่ทาง Samsung เร่ำลือกใช้งานวัสดุโลหะอย่างดีที่สร้างผ่านกระบวนการการผลิตแบบพิถีพิถันด้วยขั้นตอนต่างๆ มากมายกว่าจะนำมาใช้งานเป็นกรอบตัวเครื่อง
ซึ่งวัสดุโลหะดังกล่าวนั้นทาง Samsung ได้มีการนำแท่งโลหะมาตัดด้วยกระบวนการเครื่องจักรที่ถูกควบดูแลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ computerized numerical control (CNC) เพื่อให้ออกมาเป็นกรอบของตัวเครื่องที่สวยงาม
Battery
เรื่องของพลังงานแบตเตอรี่นั้น นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ซึ่งGalaxy Alpha นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 1860 mAh ทำงานควบคู่กับชิพประมวลผลการทำงาน
หรือว่า CPU Exynos ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีการผลิต 20 nm ทำให้เก่งใช้งานแบตเตอรี่บน Galaxy Alpha ได้ประหยัดและยาวนานสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง
รวมทั้งยังเก่งเปิดโหมดประหยัดพลังงานอันเลื่องชื่อของ Samsung อย่าง Ultra Power Saving Mode ที่เป็นโหมดประหยัดพลังงานที่จะทำการเปลี่ยนหน้าจอเข้าสู่โหมดขาว-ดำ พร้อมทั่งลดการทำงานของระบบที่ไม่จำเป็นลง
ทำให้ศักยยืดพลังงานของแบตเตอรี่ที่เหลือเลื่องเท่า 10% ให้เชี่ยวชาญใช้งานได้นานขึ้นไปอีกสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง ดังนั้นปัญหาเรื่องแบตเตอรี่หมดไวในระหว่างวันนั้น คงไม่ใช้อุปสรรคเหตุด้วยในการใช้งาน Samsung Galaxy Alpha เครื่องนี้อย่างแน่นอน
ภาพแสดงประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Alpha เทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
Memory
เรื่องของพื้นที่หน่วยความจำภายในนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หลายๆ คนก็ให้ความสนใจไม่พ่ายเรื่องของแบตเตอรี่เลยที่เดียว พร้อมด้วยยิ่งผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการถ่ายรูป หรือไม่ดูภาพยนต์ด้วยการดาวน์โหลดไฟล์มาลงเครื่องด้วยแล้ว
ยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพืเศษ ซึ่ง Galaxy Alpha นั้นมาพร้อมหน่วยความจำภายใน 32 GB ซึ่งเชี่ยวชาญรองรับการเก็บไฟล์หนังได้มากถึง 30 กว่าเรื่อง (เฉลี่ยไฟล์ละ 800 MB ต่อ 1 ไฟล์) ไฟล์เพลงได้มากถึง 5 พันกว่าเพลง (เฉลี่ยไฟล์ละ 5 MB ต่อ 1 ไฟล์) ไม่ใช่หรือจักเป็นรูปภาพก็ได้มากถึง 1 หมื่นกว่ารูป (เฉลี่ยไฟล์ละ 2.5 MB ต่อภาพ) เลยทีเดียว
รวมทั้งยังรองรับการถ่ายโอนไฟล์ไปยังอุปกรณ์ปลายทางเพื่อแบ่งปันไฟล์ข้อมูลต่างๆ ให้กับคนสนิทก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนไฟล์ลอด Flash Drive แบบ MicroUSB (Dual USB) ที่เก่งใช้งานควบคู่กับ Galaxy Alpha ได้เป็นอย่างดี
ไม่ใช่หรือจักเป็นการแชร์ไฟล์แบบ NFC/S Beam ไปยังสมาร์ทโฟนปลายทางอีกเครื่องก็ได้เช่นกัน นับเป็นความสะดวกสบาย ด้วยกันไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของหน่วยความจำไม่พอบน Galaxy Alpha แต่อย่างใดนั้นเอง
Samsung Galaxy Alpha นับเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่น่าสนใจอีกรุ่นจาก Samsung ที่นอกจากจักมาพร้อมดีไซน์หรูหราที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ตอบรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวเลยที่เดียว
เพราะว่าทาง Samsung ได้วางจำหน่าย Galaxy Alphaแล้วลอดร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมตัวเครื่อง 5 สี ได้แก้ สีขาว, สีดำ, สีฟ้า, สีเทาพร้อมทั้ง สีทอง
Credit By Siamphone
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

25 สิ่งประดิษฐ์ในปี 2014 Apple Watch, Surface Pro 3 พร้อมด้วยไม้ Selfie ติดโผด้วย

25 สิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2014 , Surface Pro 3 กับไม้ Selfie ติดโผด้วย
นิตยสาร TIME จัดอันดับ 25 สิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2014 โดยมีอุปกรณ์ด้านไอทีหลายชนิดที่ติดโผในปีนี้ รวมไปถึงไม้ Selfie ด้วย
สิ่งประดิษฐ์ด้านไอทีที่ติดโผในปี 2014 ขอหยิกยกกล่าวถึงบางชนิด อันได้แก่ Apple Watch ซึ่ง TIME ได้ให้รายละเอียดว่า เป็นคอมพิวเตอร์บนข้อมือที่ใช้ส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบใหม่ ในรูปแบบของหน้าจอระบบสัมผัส ด้วยกันปุ่มดิจิตอลคราวน์ที่คล้ายกับนาฬิกาทั่วไป หรือไม่ก็ในชื่อเม็ดมะยม เก่งใช้ในการส่งข้อความ, ติดตามพฤติกรรมการออกกำลังกาย ด้วยกันการชำระเงินไร้สาย (Apple Pay)
BlackPhone สมาร์ทโฟนตัวแรกที่ให้ความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุด ด้วยการปรับแต่ง Android ด้วยกันใช้ซอฟต์แวร์ที่มีการเข้ารหัสทุกครั้งที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการโทร, ส่งข้อความ พร้อมกับพระประวัติการเข้าใช้งานเบราว์เซอร์
Surface Pro 3 จาก Microsoft ที่มาพร้อมกับคำนิยามที่ว่า “แท็บเล็ตที่มาแทนที่แล็ปท็อป” ด้วยหน้าจอขนาด 12 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันการใช้งานด้านเอกสารข้ามแอพพลิเคชั่น Office Word, Excel และ PowerPoint ตอบสนองการใช้งานด้วยปากา, คีย์บอร์ดพร้อมกับขาตั้งในหลากหลายมุม
ไม้ Selfie นับเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็ตที่กลายเป็นความนิยมในสังคมผู้ใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งหน้าที่ของไม้ Selfie คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้มากความ  เพราะว่าเชื่อว่าน่าจักเป็นอีกอุปกรณ์ที่ติดกระเป๋าผู้อ่านไม่ใช่หรือคนข้างๆของท่าน เช่นเดียวกับ Power Bank
Hoverboards สเก็ตบอร์ดลอยได้ จากอุปกรณ์ในหนัง Back to the future อันโด่งดังครั้งหลายสิบปีก่อน เวลานี้ได้กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในชีวิตแน่แท้ และมีแนวโน้มที่จะวางจำหน่ายแท้จริงอีกด้วย
สำหรับสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ สมมติท่านหิวทราบว่ามีอะไรอีกบ้าง เชี่ยวชาญเข้าไปชมได้ที่นี่ครับ >>> TIME <<< 
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ภาพอัพเดทการสร้างหน่วยงานโตแห่งนวชาตของ Apple

เป็นโปรเจคใหญ่ข้ามปีที่ไม่ได้ไกลเกินไปแล้ว เนื่องด้วยสำนักงานใหญ่ของ Apple แห่งใหม่ ที่เดินเรื่องขอสร้างตั้งแต่กาลสมัย Steve Jobs ยังอยู่ เพราะล่าสุดก็มีภาพการอัพเดทจากเว็บไซต์ของสภาเมือง Cupertino ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ออกมาให้เห็นความคืบหน้ากันแล้ว
จากภาพเราจักเห็นได้ว่าพื้นที่โดยรอบของตัวสำนักงานได้ถูกเตรียมการเอาไว้ ค่อนข้างเรียบร้อย แต่ยังไม่เห็นโครงสร้างหลักของตัวอาคารแบบเป็นรูปเป็นร่างเท่าไรนัก แต่ก็พอเห็นพื้นที่คร่าวๆ ที่ตัวอาคารหลักจะก่อสร้างว่าจะใหญ่โตอลังการขนาดไหน
เหตุด้วยกำหนดการเสร็จของสำนักงานแห่งนี้ อยู่ที่ช่วงราวๆ ปลายปี 2016 ซึ่งก็อีกแค่เกือบๆ 2 ปีเท่านั้น
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

ผลโพล ไทย/เทศ เห็นพ้องเลือกเฟ้น Note 4

เทียบฟอร์ม กาแล็คซี่ โน้ต 4 vs ไอโฟน 6 พลัส ใครคือสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่ตอบโจทย์มากที่สุด?
     ถ้าพูดถึงยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมาร์ทโฟนในยุคนี้ คงไม่ใช่ใครนอกจากคู่รักคู่แค้นอย่าง แอปเปิล และ ซัมซุง ที่ล่าสุดทั้ง2ค่ายก็ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ จอใหญ่ออกมาเขย่าตลาดในเวลาไล่เลี่ยกัน
ขอบคุณที่มาของภาพ: www.knowyourmobile.com
     เนื่องด้วย แอปเปิล เพิ่งเริ่ม iPhone 6 ด้วยกัน iPhone 6 Plus ซึ่งเป็นไอโฟนจอใหญ่ที่สุด ขณะที่ ซัมซุง โหมโรง Galaxy Note 4 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่เรือธง ที่มาพร้อมปากกา SPen เหตุด้วยใช้งานเขียนพร้อมกับวาดบนมือถือที่มีลูกเล่นมากมาย
     แม้หลายคนอื้นว่ากินกันไม่ลงแต่จากการสำรวจความนิยมสมาร์ทโฟนจอใหญ่ในดวงใจที่ผู้บริโภคอยากซื้อจากเว็บไซต์ยอดนิยมทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยดูเหมือนว่า Samsung GALAXY Note 4 จักมาแรงแซงโค้ง iPhone 6 Plus ไปแบบเฉียดฉิว
     เพราะว่าเว็บไซต์ไอทียอดนิยมอย่าง www.pcmag.com เขียนบทวิเคราะห์เปรียบเทียบจุดอ่อนจุดแข็งของสมาร์ทโฟนจอใหญ่เพราะให้คะแนน GALAXY Note 4 สูงถึง 4.5/5 ชนะ iPhone 6 Plus และ LG G3 ที่ได้ไป 4 คะแนนเท่ากัน
     ขณะที่ www.phonearena.com ถอดสเป็คแบบเจาะลึกระหว่าง Samsung GALAXY Note4 ด้วยกัน iPhone 6 Plus แบบหมดเปลือกก็ให้คะแนน Note 4 เฉือนชนะไปด้วยคะแนน 9.2 ต่อ 9.1
     ส่วนเว็บไทยอย่าง www.it24hrs.com นอกจากเขียนรีวิวเปรียบเทียบข้อมูลเพราะละเอียด ก็เปิดให้ประชาชนโหวตเเล่าลือกว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน ระหว่าง Samsung GALAXY Note 4 กับ iPhone 6 Plus ซึ่งผลปรากฏว่า Note 4 ชนะโหวตไปอย่างถล่มทลายที่ 1,235 คะแนนโหวต มากกว่า iPhone 6 Plus เกือบเท่าตัวที่ได้ไปพ่าง 818 คะแนน
     ดังนั้นใครที่กำลังจะตกลงใจเลือเลื่องกหาสมาร์ทโฟนจอใหญ่มาเป็นเจ้าของในเวลานี้ ก็ต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดเพื่อประกอบการปลงใจว่ารุ่นไหนจะตอบโจทย์การใช้งานของตัวเรามากกว่ากัน

เทียบฟอร์ม วัสดุ-ขนาด-หน้าจอ
     เกริ่นจากรูปลักษณภายนอก Galaxy Note 4 ฝาหลังทำจากพลาสติก บุด้วยหนังเทียม ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ด้วยกันการจับมือถือเหมือนจับวัสดุหนัง ส่วน iPhone 6 Plus วัสดุทำด้วยโลหะอลูมิเนียม การออกแบบตัวเครื่องที่สวยแต่ผิวสัมผัสค่อนข้างลื่น ทำให้มีโอกาสทำให้พลาดหลุดมือได้ง่าย
     ส่วนหน้าจอ iPhone 6 plus ขนาด 5.5 นิ้วซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไอโฟนมีจอใหญ่ขนาดนี้ แต่ก็ยังเล็กว่า Galaxy Note 4 ซึ่งมีขนาด 5.7 นิ้ว ทำให้การแสดงผลของ Galaxy Note 4 จักแสดงได้เต็มตากว่า iPhone 6 Plus เล็กน้อย
     ด้านความบางแม้ว่า iPhone 6 Plus มีความบาง 7.1 mm ซึ่งบางกว่า Galaxy Note 4 ที่มีความบาง 8.5mm แต่ความบางของiPhone 6 plus ก็ทำให้เกิดปัญหาเครื่องอาจงอได้จนถึงใส่กระเป๋ากางเกง เช่นกรณีที่เกิดปัญหาในต่างประเทศ ขณะที่น้ำหนักของ iPhone 6 Plus เบากว่าเล็กน้อยคืออยู่ที่ 172 กรัม ส่วนน้ำหนักของ Galaxy Note 4 หนัก 176 กรัม
     สำหรับความละเอียดของหน้าจอ iPhone 6 Plus เป็นแสดงผลแบบ Full HD (1920x1080 401 ppi) ซึ่งชัดกว่า iPhone 6 ที่ความคมชัดระดับ HD ขณะที่ Galaxy Note 4 มีความละเอียดแบบ Quad HD (2560x1440 515 ppi ) พร้อมด้วยหน้าจอ Super AMOLED ทำให้โดยรวมแล้ว Galaxy Note 4 มีความละเอียดสูงกว่า
     ขณะที่ iPhone 6 Plus มีให้เลือเลื่องก 3 สี คือสีเงิน , สีทอง พร้อมกับ สีเทา , ส่วน Galaxy Note 4 มีให้เเอิกเกริกก 4 สี คือ สีดำ (Charcoal Black), สีขาว (Frost White), สีทอง (Bronze Gold) กับสีชมพู (Blossom Pink)
เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ-NFC กับการใช้งานเป็นแน่แท้
     ทั้ง2 รุ่นมีเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งทั้งคู่ออกแบบไว้เหตุด้วยรักษาความปลอดภัยในการปลดล็อคหน้าจอ แต่วิธีการสแกนจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone 6 plus ใช้การสแกนโดยกดปุ่ม home ค้างไว้สักครู่ครั้งเดียว ตัวเครื่องก็รอบรู้สแกนลายนิ้วมือไปด้วยพร้อมกันกับการปลดล็อกเครื่อง
     แต่สำหรับ Galaxy Note 4 ใช้วิธีการแตะแล้วปาดลงข้างล่าง (Swipe) ตัดผ่านปุ่ม Home เพื่ออ่านลายนิ้วมือ พร้อมกันนี้ Note 4 ศักยใช้ชำระเงินผ่านทาง Paypal ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
     ส่วนเทคโนโลยี NFC ทั้งคู่มีเหมือนกันแต่ลักษณะการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน เพราะว่า iPhone 6 Plus ใช้ NFC เพราะ Apple Pay ในการชำระสินค้า แต่ขณะนี้ยังใช้ได้แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เพราะในไทย Apple Pay ยังไม่เปิดให้บริการ
     ขณะที่ Galaxy Note 4 กับสมาร์ทโฟน Android ที่รองรับ NFC เชี่ยวชาญประยุกต์ใช้แตะเพื่อส่งภาพหรือไม่วีดีโอไปยังสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง หรือไม่ก็ใช้เหตุด้วยการโดยสารรถไฟฟ้า ชำระสินค้าและบริการ ที่สำคัญคือสมรรถใช้บริการได้แน่ๆในประเทศไทยแล้ว
Galaxy Note 4 แบตเตอรี่พลังอึด
     แบตเตอรี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชี้ขาดเพื่อการปลงใจเร่ำลือกของผู้บริโภค ซึ่งในแง่ของพลังแบตเตอรี่ Note 4 ถือว่าได้เปรียบเล็กน้อยด้วยความจุสูง ถึง 3220 mAh ซึ่งมากกว่า iPhone 6 Plus ที่มีความจุถึง 2,915 mAh
     นอกจากนี้Note 4 ยังมีระบบจัดการพลังงานแบตเตอรี่ทั้ง Power Saving Mode ที่ทำให้ Note 4 เป็นขาวดำ ซึ่งทำให้ใช้มือถือได้นานขึ้นเป็นวัน แม้แบตเตอรี่เหฟุ้งเฟื่อง 10% อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Fast Charging ให้ชาร์จแบตเต็มเร็วขึ้น พร้อมด้วย iPhone 6 Plus เป็นแบตเตอรี่ติดกับตัวเครื่องถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้ ส่วน Note 4 ศักยถอดเปลี่ยนแบตใหม่ได้
     รวมทั้งจุดเด่นเรื่องสายสำหรับโอนข้อมูล พร้อมกับชาร์จมือถือที่ Note 4 ทำได้ใช้สายชาร์จที่เป็น Micro USB ซึ่งหาง่ายในท้องตลาด ส่วน iPhone 6 Plus ต้องใช้สายแบบ lightning
Note 4 มาพร้อมลูกเล่น Wide Selfie
     เหตุด้วยคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพของ Galaxy Note 4 มีความละเอียด 16 Megapixel และกล้องหน้า 3.7 Megapixel ซึ่งสูงกว่า iPhone 6 Plus ที่มีความละเอียดเท่ากับรุ่นเดิมที่มีความละเอียด 8 Megapixel พร้อมด้วย กล้องหน้า 1.2 Megapixel พร้อมทั้งทั้งคู่มาพร้อม OIS ระบบป้องกันภาพสั่นไหวขณะถ่ายรูป นอกจากนี้ Galaxy Note 4 ยังมีลูกเล่น Wide Selfie ช่วยให้ถ่ายรูป Selfie ได้กว้างขึ้น
     นอกจากนี้ Galaxy Note 4 รองรับทั้ง Android Wear , Samsung Gear , Pebble ซึ่งมีจำหน่ายในเมืองไทยอยู่แล้ว จึงกลายเป็นมือถือที่รองรับรองรับ Wearable มากกว่า iPhone 6 Plus ที่ต้องรอจำหน่าย Apple Watch ในปี 2015
SPen เพิ่มประสบการณ์ใช้งานขีดเขียน
     และที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของ Samsung Galaxy Note 4 คือปากกา SPen ไว้สำหรับจดบันทึก ขีดเขียน เหรอวาดภาพ พร้อมด้วยเสริมลูกเล่นในการเรียกคำสั่งด้วย Air Command ซึ่งมีมาตั้งแต่ Galaxy Note 3 แล้ว นอกจากนี้ Galaxy Note 4 ยังอาจจักใช้ปากกาในการแบ่งควบคุมหน้าต่าง Multi Windows ได้
     ซึ่งปากกา sPen ที่มีความแม่นยำในการเขียน ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น เช่นอาจใช้เซ็นเอกสารแล้วส่งแบบอิเลคทรอนิกส์ได้ง่ายๆ ใช้ลากเส้น วาด เขียน ไม่ก็เขียนตัวอักษรด้วยลายมือ แล้วระบบแปลงเป็นตัวพิมพ์ได้
     ประเด็นสุดท้ายที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการปลงใจเโจษกซื้อก็คือมูลค่าซึ่งSamsung Galaxy Note 4 วางจำหน่ายในไทยในค่า 25,900 บาทด้วยหน่วยความจำ 32GB ส่วน iPhone 6 Plus ราคาเครื่องเปล่าที่ขายในไทย อยู่ที่ 28,900 บาท หน่วยความจำ 16GB พร้อมด้วยขยับไปถึง 32,900 บาทด้วยว่าหน่วยความจำ64 GB ดังนั้นครั้นเมื่อเทียบในแง่สเปคกับมูลค่าแล้วก็ถือว่า Galaxy Note 4 ยังค่าถูกกว่าอยู่ไม่น้อย

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความจัดเจนสัปดาห์แรกของผมกับ “iPhone 6”

หลังจากวางขายในไทยเป็นวันแรก จนกระทั่งวันที่ 31 ต.ค.ที่ข้ามมา เชื่อว่าเหล่าสาวก  คงไม่พลาด ไปเข้าแถวรอถอยเจ้า iPhone 6 หรือ iPhone 6 plus มาครอบครองในมือกันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ?
เรื่องรีวิวรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ หลายท่านอาจจักได้อ่าน หรือเสพเปลี่ยนตาจากหลากหลายแหล่งข้อมูลมาแล้วไม่มากก็น้อย แต่เชื่อว่าประเดี๋ยวนี้ น่าจักยังมีเหล่า แอปเปิ้ลนิยม อีก หลายท่าน ที่กำลังคิดอยู่ว่า
เอ๊ะ! ฉันจะซื้อดีมั้ยหนอ? พร้อมๆกับมองไปยังไอโฟน 4, 4s, 5 หรือว่า 5s ที่อยู่ในมือเดี๋ยวนี้

ส่วนของดีไซน์ด้านหน้าตัวเครื่อง 
ในฐานะที่ผมก็เป็นหนึ่งใน ผู้จงรักภักดี กับแบรนด์นี้มาพอสมควร ล่าสุดก็เพิ่ง ปลดเปลื้องเจ้า 5s ไปจากอ้อมอก เพื่อฉกเจ้า 6 มาแทนที่
ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ย้ำเล่าเก้าสิบประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับ เจ้า iPhone 6 สีทอง 64 GB มาเป็นระยะเวลานานเกือบอาทิตย์เต็มๆ (เหมือนนานมากเนอะ ฮ่าๆ) เพราะว่าจักขอใช้ iPhone 5s คนรักเก่าของผม เป็นบรรทัดฐานในการเปรียบเทียบ เผื่อจักช่วยใครที่ยังลังเลอยู่ ตกลงใจได้ว่าสรุปแล้ว ซื้อดีมั้ยว้า?!
- น้ำหนักมากไปป่ะ?
ตามข้อมูลที่แอปเปิ้ลระบุมาว่า 6 จัก หนักกว่า 5s อยู่ 17 กรัม (129 กับ 112 ตามลำดับ) สร้างความคลางแคลงใจแก่สาวกอยู่ไม่น้อย จนหลายๆคน รวมถึงผมเองก็กังวลว่า เห้ย! รุ่นใหม่กว่า ทำไมไม่พัฒนาให้เบาลง น้ำหนักมากกว่าเดิมได้ไงฟระ?
ตัวเครื่องด้านขวา
ตัวเครื่องด้านซ้าย
ตราบได้ลองถือดูแล้วมัน ไม่ต่าง คือต้องแจ้งให้ทราบว่าเจ้า 6 นี่มันไม่ได้หนักอะไรเลย ครั้งลองเทียบกับ 5s แล้ว คนทั่วไปนี่แยกไม่ออกแน่ๆว่า 17 กรัมที่ว่า มันแตกต่างกันยังไง?
สรุปง่ายๆตามความเข้าใจของผมเองนะครับ คือเจ้า 6 เนี่ยมันไม่หนักหรอก เจ้า 5s ต่างหากที่ออกมาครองโลกก่อน แต่ดันเบาเกิ๊น!
- ดีไซน์ตัวเครื่องใหญ่ไปมั้ย?
ข้อนี้ต้องเรียนตามตรงว่า สัมผัสแรก ณ ที่ร้าน ตอนหยิบขึ้นมานี่รู้สึกเลยว่า ใหญ่จังฟระ! แต่พอได้จับๆ ลูบๆคลำๆ จนริเริ่มชิน กลับรู้สึกว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่มือตัวเองรับไหว(ผมสูง 180 ซม. แต่ขนาดมือ ไม่ถือว่าใหญ่มาก ถ้าเทียบกับผู้ชายที่รูปร่างใกล้เคียงกัน)
ส่วน 6plus ที่วางอยู่ใกล้ๆกัน สัมผัสแรกที่หยิบขึ้นมา ผมนี่.. ถึงกับวางคืนที่เดิมเลยครับ!! ไอ้นี่แหละใหญ่เกินไปของแท้!
นำเครื่อง iPhone4s iPhone5s ด้วยกัน iPhone6 มาเปรียบเทียบหน้า
นำเครื่อง iPhone 4s iPhone 5s ด้วยกัน iPhone 6 มาเปรียบเทียบด้านข้าง
นำเครื่อง iPhone4s iPhone5s พร้อมกับ iPhone6 มาเปรียบเทียบด้านบน
ปุ่ม Home ที่เคยอยู่มุมขวาบน ถูกเปลี่ยนมาอยู่ด้านข้างขวาแทน ซึ่งตรงจุดนี้ผมมองว่าเจ๋งมาก เพราะถ้าผมใช้มือซ้ายจับเครื่อง ตำแหน่งมันจักอยู่ตรงนิ้วชี้(หรือไม่นิ้วกลางก็ได้)พอดิบพอดี
แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้มือขวา นิ้วโป้งก็พร้อมจักกดได้พอดีเป๊ะเช่นกัน กับอีกเหตุผลที่บ่งว่า ใหญ่ในระดับพอรับได้ก็คือ มันยังยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้าได้ ชนิดที่ไม่โผล่หัวแหลมเกินออกมา ให้เสี่ยงหล่นไม่ใช่หรือหายนั่นเองครับ
- หน้าจอเป็นไง?
ดีทีเดียวครับ! ขนาด 4.7 นิ้ว ของ 6 ให้ความรู้สึกการมองที่แตกต่างมากๆจากหน้าจอ 4 นิ้วของ 5s ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เวลาที่เราดูไฟล์วิดีโอไม่ก็เล่นเกมต่างๆ มันเก็บภาพได้มากขึ้น
ทำให้เราไม่ต้องเพ่งเยอะแยะ จักสร้างแลนด์มาร์ค ใช่ไหมจักแชทไลน์ รู้สึกได้เลยว่า ฟิน มากขึ้นแน่แท้ๆครับ คอนเฟิร์ม!
ด้านหน้าตัวเครื่อง
ด้านความละเอียดหน้าจอที่มากขึ้นจาก 1136x640 พิกเซล เป็น 1334x750 พิกเซล และจอรุ่นเก่าจาก Retina display เป็น Retina HD display ประสิทธิภาพดีขึ้นชัดเจนครับ
ส่วนฟังก์ชั่น Reachability ที่เพิ่มเข้ามา ด้วยการแตะที่ปุ่มสแกนนิ้วสองครั้ง เพื่อเลื่อนหน้าจอลงมาให้กดง่ายขึ้น กรณีที่นิ้วแตะไม่ถึงไอคอนแถวบน ก็ช่วยได้เยอะแยะ ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีเลยทีเดียว
- กล้องชัดมั้ย?
แม้ว่าจำนวนพิกเซลจะยังคงยืนหยัดอยู่ที่กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 1.2 MP เท่ากัน แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นคือ New Sensor ระบบ Autofocus แบบ Focus Pixel ซึ่งช่วยในการเกลี่ยแสงของภาพให้ดีขึ้น แถมยังเพิ่มขนาดของรูรับแสง
ทำให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น พร้อมทั้งมี Noise น้อยลงในกล้องหน้าครับ เซลฟี่กันสนุกกว่าเดิมล่ะงานนี้!
ด้านหลังตัวเครื่อง
ส่วนวิดีโอ ก็มีโหมด Slo-mo แบบ 240 fps เพิ่มขึ้นมา เรียกบ้านๆก็คือ มันถ่ายสโลว์ได้ช้ากว่าเดิมอีก ส่วนโหมด Time-lapse ที่เหมาะด้วยถ่ายวิดีโอในเวลานานๆ ก็น่าสนใจครับ ถือเป็นลูกเล่นใหม่ของ iOS8 ได้เลย
ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันครับ
- การทำงานของเครื่องเป็นไง?
ด้วยชิป A8 ที่พัฒนาขึ้น ตรงจุดนี้ก็มีข้อแตกต่างที่ดีกว่า A7 อยู่ไม่น้อยครับ จากการทดลองเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ แม้เครื่องจะทำงานหนัก แต่ก็ดูไหลลื่น ไม่กระตุกติดขัด และภาวะ แอพเด้ง ก็ไม่มีให้เห็นเลย
ยังรวมไปถึงการเรียกข้อมูลในเครื่อง, การประมวลผลรูปภาพในบราวเซอร์ขณะท่องเว็บไซต์ก็ให้ความรู้สึกลื่นไหล เรียกง่ายๆแบบบ้านๆก็คือ ดูมัน ฉลาดขึ้นกว่าเดิม นั่นเองครับ เป็นหมวดถามปุ๊บตอบปั๊บ ตอบสนองได้ทันที ไม่มีอิดออด แต่ถ้ากรณีปฏิญาณณอินเตอร์เน็ทใช่ไหมไวไฟช้าเอง นั่นก็อีกเรื่องนึงนะจ๊ะ!
- แบตเตอรี่อึดขึ้นป่าว?
ถ้าตามข้อมูลที่แอปเปิ้ลแจ้งมา เขาชี้ว่าจักอยู่ได้นานขึ้นกว่า 5s ราว 20% ซึ่งว่าตามตรงก็ถือว่าไม่มากนัก แต่ถ้าเทียบกับไลฟ์สไตล์ของผมกับเจ้ารุ่นเดิม ออกจากบ้านมาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า แบตเตอรี่เต็ม 100% เล่นแอพไม่ใช่หรือโทรเข้าออกตามปกติ ก็อยู่ได้ยันเลิกงาน 5 โมงเย็นครับ เหลือกระฉ่อน 20-30%
แต่เพื่อเจ้า 6 นี่ จากการทดลอง ด้วยลักษณะการใช้งานระยะเวลาพอๆกัน ตั้งแต่เช้าอยู่ได้จนถึงก่อนนอน 4-5 ทุ่มก็ยังไหวครับ 20-30% มีเหระบือแน่ๆ พร้อมกับถ้าไม่แตะเลย ปลดปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน ยันเช้าของวันรุ่งขึ้น แบตก็แทบไม่ลดเลย มากสุดก็แค่ 2-3% เท่านั้นที่หายไป
อย่างไรก็ดี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ ถ้าเล่นเกมที่ความละเอียดสูงมากๆ หรือว่าใช้งานติดต่อกันเป็นชั่วโมงๆ ไม่ทันถึงเลิกงาน แบตคุณก็หมดอยู่ดีแหละ!
สรุปว่าประสบการณ์ใหม่ของผมกับเจ้า iPhone6 ในระยะเวลาอาทิตย์แรก ถ้าจะถามว่า ใช้ 5s อยู่ สมควรเปลี่ยนใหม่มั้ย?
ในฐานะคนที่เคยใช้ 5s มาก่อนเหมือนกัน ผมเปรยได้เลยครับว่า..
ไม่ว่าจักใช้ 5s ไม่ก็รุ่นไหนก็ตาม ถ้าจักซื้อ 6 มาใช้ รับรองไม่ผิดหวัง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ดีกว่าเดิมทุกอย่าง ถ้าจักมีจุดด้อยกว่าก็คงเป็นเรื่องเดียวคือ ความถนัดในการจับถือ นอกนั้นจุดเด่นของ 6 กลบ 5s มิดเลยครับ
ส่วน 6plus ขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับ ก็เพราะว่ายังไม่มีประสบการณ์กินนอนอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าจักจำกัดความสั้นๆก็น่าจะได้ว่าiPhone6plus ไม่น่าจะใช่ไอโฟนที่เหมาะเหตุด้วยทุกคน
ก็อย่างที่ตรัสตอนต้นล่ะครับ มันใหญ่เกินไปจริงๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เมืองไทยได้ทุบราคาออกตัว iPad Air 2 และ iPad mini 3 อย่างเป็นทางการแล้ว

เคาะแล้วเนื่องด้วยสนนราคาขายเครื่อง iPad Air 2 ด้วยกัน iPad mini 3 รุ่น WiFi  อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เกี่ยวกับสนนราคาที่นำมาอัพเดทกันนั้นเป็นมูลค่าของ iPad Air2 กับ iPad mini ที่ iStudio/iBeat by copperwired ทั้ง 2 รุ่นที่จักวางจำหน่ายในวันนี้นั้นมีเหมือนรุ่น Wifi เท่านั้น





ราคา iPad mini ที่ iStudio/iBeatสนนราคาตามนี้

iPad mini Wi-Fi 16GB Space Gray อยู่ในมูลค่าที่ 13,400 บาท
iPad mini Wi-Fi 16GB Silver อยู่ที่มูลค่า 13,400 บาท
iPad mini Wi-Fi 16GB Gold อยู่ที่ค่า 13,400 บาท
iPad mini Wi-Fi 64GB Space Gray อยู่ในมูลค่าที่ 16,900 บาท
iPad mini Wi-Fi 64GB Silver อยู่ในค่าที่ 16,900 บาท
iPad mini Wi-Fi 64GB Gold อยู่ในราคาที่ 16,900 บาท
iPad mini Wi-Fi 128GB Space Gray อยู่ที่ราคา 20,400 บาท
iPad mini Wi-Fi 128GB Silver อยู่ที่มูลค่า 20,400 บาท
iPad mini Wi-Fi 128GB Gold อยู่ที่ค่า 20,400 บาท
สนนราคา iPad Air2 ที่ iStudio/iBeatราคาก็ตามนี้

iPad Air2 Wi-Fi 16GB Space Gray อยู่ที่ค่า 16,900 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 16GB Silver อยู่ที่สนนราคา 16,900 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 16GB Gold อยู่ที่ราคา 16,900 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 64GB Space Gray อยู่ที่ค่า 20,400 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 64GB Silver อยู่ที่ค่า 20,400 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 64GB Gold อยู่ที่ราคา 20,400 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 128GB Space Gray อยู่ในมูลค่าที่ 23,900 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 128GB Silver อยู่ในค่าที่ 23,900 บาท
iPad Air2 Wi-Fi 128GB Gold อยู่ในค่าที่ 23,900 บาท

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

ติดตามข่าวสารไอที ไอแพด ไอแพดแบบใหม่ ไอแพดแอร์ได้ที่ : http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แจ็กพอตแตก! เนื่องด้วยคนที่ซื้อ iPhone 6/6 Plus ล็อตแรกๆ โดนแล้ว



ตัวเครื่อง iPhone 6/6 Plus ที่ขายในประเทศไทยล็อตแรกในไทย ส่อแววมีปัญหาเพียบ!!

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจักได้สัมผัสเครื่องสมาร์ทโฟนเรือธงแบบใหม่ล่าสุดของบริษัท Apple กันบ้างแล้ว ภายหลังที่เปิดให้มีการจองและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าไปครั้นเมื่อหลายวันก่อน!!

เดี๋ยวนี้นั้นมีรายงานจาก เว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Pantip มีรายงานเรื่องปัญหาความผิดพลาดในเรื่องของการ QC ในเครื่องต่อให้เป็น Apple ที่เข้มงวดเรื่องนี้ก็ไม่รอดเช่นกัน



เพราะปัญหาที่เจอในตอนนี้นั้นค่อนข้างมีลักษณะใกล้เคียงกับกรณีของเครื่อง iPhone 5S ของปีที่แล้ว พวกลอตแรกโดนทุกราย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปุ่มเขย่ามีเสียง ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องปกติของเครื่อง ที่ไหนได้ คนซื้อลอตหลังๆ ไม่เจอปัญหานี้กันเลย

ล่าสุด iPhone6 กับ iPhone6 Plus ส่อแววจักได้เจอปัญหา defect ลอตแรกเหมือนเดิม ใครรีบซื้อรีบจองคงต้องเตรียมเซ็งไปตามระเบียบ

ซึ่งตัวเครื่องที่จักประสบปัญหานั้นเป็นเครื่องที่ได้รับมาจาก Apple Store Online พร้อมกับตามหน้าร้านต่างๆ เช่นพวก iStudio เหรอตามร้านผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ทางกลุ่มงาน ได้สรุปปัญหาที่เจอ มีดังถัดจากนี้

ปัญหาแรก สวิทช์เปิด/ปิดเสียงไอโฟน6 หลวมทุกเครื่องเลยไหมเนี่ยไปดูกันในเว็บเมืองนอก มีคนพูดถึงเรื่องนี้ด้วย



ที่มา: http://pantip.com/topic/32791590

ปัญหาที่สอง ไปรับเครื่อง iPhone 6 plus ตรวจสอบรอยต่อของจอกระจกกับตัวเครื่องไม่เน้น (ตรวจสอบกันดูให้ดี) วันนี้เจอมาแล้ว 2 เครื่อง ไปดูคลิปรีวิวของเมืองนอก เห็นเครื่องมีช่องเสียบบัตรเหมือนกระทู้ข้างบนเลย แต่เจ้าของเครื่องอาจไม่ได้สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็พ้นๆไป




ที่มา:  http://pantip.com/topic/32789320

ปัญหาที่สาม หน้าจอหลวม มีช่องว่างนิดหน่อย กดแล้วมีเสียง เป็นปัญหาที่เปิดฝาบ่นกัน ส่วนในประเทศไทยอาจตามมาทีหลังเพราะว่าเพิ่งขายเครื่อง



ที่มา:  http://pantip.com/topic/32789320

ปัญหาที่สี่ ปัญหานี้อาจ Basic มาก แต่อย่าลืมว่า iPhone 6 ใช้จอ LCD โอกาสเจออาจจักสูงกว่ายี่ห้ออื่นที่ใช้จอแบบอื่น ดังนั้นตอนที่ได้เครื่องมา ต้องเช็คให้ดีๆก่อน เตรียมพื้นแบล็คกราวดำล้วน-ขาวล้วนไว้เช็คที่จอเพราะเฉพาะ





ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วฝากกันอีกเรื่องก็ละกันครับ ด้วยว่ากรณีนี้ จอง iPhone6+ AIS ได้ รับของวันนี้ แต่เจอ dead pixel พนักงานให้ walk in มาซื้อหลังวันที่ 3 เลย ที่มา:   http://pantip.com/topic/32790429

แต่ๆ หลักๆ ที่ล็อตแรกน่าจะโดนกันถ้วนหน้าคือที่ปุ่ม เปิดปิดเสียง ขยับได้เบาๆ คือไม่แน่น ซ้ำรอยเดิม iPhone 5S ปีที่แล้ว เพราะล็อตแรกคงโดนหมดทั้งจากการซื้อตัดผ่านศูนย์ในไทย พร้อมด้วยแน่นอนที่ซื้อพ้น Apple Store ตั้งแต่วันนี้ พอได้เครื่องเดี๋ยวกระทู้บ่นพรึ่บ

ที่เคยพูดกันว่าซื้อไอโฟนล็อตแรกถ้าจักครัน ที่ต้องรอสัก 2 เดือนเป็นอย่างต่ำให้ line การผลิตแก้ defect ล็อตแรกๆ ก่อนถึงจักซื้อได้ นึกถึงบรรยากาศปีที่แล้ว เคลมกันใหญ่ๆ เขย่ามีเสียง ซื้อล็อตแรกเหมือนหนูทดลองยา

บางคนกล่าวประเทศไทยขายป่านนี้คงไม่ใช่ล็อตแรกแล้วมั้ง แต่เห็นโดน defect กันทุกปี งงป่ะละ? หรือว่าไทยเราการผลิต มาตรฐานจักต่ำหรือไม่ก็หย่อนยานกว่าประเทศกลุ่มที่ 1

เครื่องไทย โค็ดไทยอาจเป็นอีกไลน์ของกลุ่มประเทศที่แนวๆ เดียวกับเราก็ได้ คือมาตรฐานผลิตภัญฑ์ไม่ได้สูงมากเหมือนประเทศพัฒนาแล้วเคลมยากกว่า อะไรก็ยากกว่า หรือล็อตแรกจะเอาเครื่องตีคืนจากกลุ่มประเทศแรกๆ มาปน ทำไมเจอถี่กว่าประเทศอื่น

ก็เพราะว่างั้นก็ขอแนะนำสั่งจาก Apple store ถ้าไม่ถูกใจเหรอมีปัญหา เครมรั่วๆ ได้เลยครับ(ค่าส่ง+ค่ามารับคืนเราไม่เสีย)

ประเด็นต่อมาที่ผมตะกลามฝาก(เน้น) ให้เอาไปคิดกันนะครับ ด้วยมูลค่าของ iPhone 6/6 Plus ค่อนข้างสูง ก่อนรับเครื่องมานั้นรบกวนช่วยเช็คสินค้าให้ดีๆ ก่อนเอาแบบละเอียด สมมติมีเพื่อนไปด้วยหลายๆ คนก็จะดี เช็คให้ทุกมุม ไม่ต้องส่วนว่าใครจักมองว่าเรา เรื่องมาก เงินเรา ของเรา

สมมติว่าเจอปัญหาหลักจากซื้อเครื่องไป เดินเข้าไปหาเถอะครับไม่ว่าจะเป็น Apple Store ใช่ไหมร้านผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ขอเคลมของเค้าไปเลยไม่ต้องกลัวใครมองว่าเรา กร่าง ไม่ก็ หัวหมอ สิทธิของเราใช้มันเถอะ

ขอบคุณ: pantip.com

ที่มา : http://hitech.sanook.com/1392589

ติดตามข่าวไอโฟน ไอโฟน 6 หรือไม่ข่าวไอทีอื่นๆ ได้ที่ : http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไอโฟน 6 แรงจัด ยอดซื้อคึกคักปลุกกำลังจ่ายเงินช่วงท้ายปี ลงขันอัดฉีดเงินกระตุ้นยอดขายเต็มพิกัด ดีแทค จัดหนักใช้ครบปีเปลี่ยนเครื่องใหม่ฟรีหวังดูดลูกค้าคู่แข่งขัน ทรูมูฟ เอช เผยกระแสดีกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า



แหล่งข่าวต่างๆในธุรกิจโทรศัพท์ มือถือกล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจ ว่า ค่ายมือถือทุกเจ้าโหมกันเต็มที่เพื่อกระตุ้นยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ ก็เพราะว่าประเมินแล้วว่าจักมีลูกค้าใหม่ที่ประสงค์ใช้ iphone พร้อมทั้งกลุ่มเดิมที่รอเปลี่ยน เครื่องรุ่นใหม่เป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ไอโฟนน่าจักเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่ทำยอดขายได้ดีมาก แม้ช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อในตลาดจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แอปเปิลเองก็มีแผนโปรโมตไอโฟนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ด้วย

งบของการตลาดพร้อมกับในการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพราะว่ารวม น่าจะเกือบ 500 ล้านบาท เพราะว่านอกจากแอปเปิลจักใส่เองแล้ว ในข้อตกลงการตลาดที่ได้ทำไว้กับค่ายมือถือจะระบุไว้ชัดเจนว่าแต่ละบริษัทจักต้องเตรี ยมงบฯโฆษณาขั้นต่ำแต่ละปีๆไว้จำนวนหนึ่งอีกด้วย รวมกันแล้วคงหลายร้อยล้านบาท

ด้าน นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด กับการขาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) เปิดพูดว่า หลังจากแอปเปิลได้วางจำหน่ายไอโฟน 6 ทั้ง 2 รุ่นเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2557 เป็นต้นไป ถือเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน

ขณะนี้ จากทั้งดีไซน์พร้อมกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนๆ ทำให้มีลูกค้ามาลงทะเบียนจองเปลี่ยนเว็บไซต์ พร้อมด้วยสั่งซื้อเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งการที่ไอโฟน 6 พร้อมด้วย 6 พลัส มีขนาดหน้าจอต่างกันทำให้ทำตลาดง่ายขึ้นอีกด้วย

เรา เตรียมแผนการตลาดเต็มตัว แต่ที่ไม่ได้จัดอีเวนต์ใหญ่ของในวันขายวันแรก เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสูงสุด เพราะว่าจะให้ลูกค้าเลือกระฉ่อนกสถานที่พร้อมทั้งวันที่จักไปรับเครื่องได้เอง นอกจากนี้ยังให้สิทธิ์ลูกค้าเดิมที่ใช้งานตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป พร้อมกับใช้แพ็กเกจรายเดือนสูงกว่า 299 บาท ได้สิทธิ์ซื้อเครื่องค่าพิเศษ ติดรับปาก 12 เดือน

เพราะมูลค่าiphone 6 ของAISอยู่ที่ 24,300 บาท, 27,650 บาท พร้อมด้วย 30,850 บาท (ความจุ 16, 64 พร้อมด้วย 128 GB) ส่วนiphone 6 plus ค่า 28,150 บาท, 31,350 บาท พร้อมด้วย 34,450 บาท ติดสนธิสัญญา 12 เดือน (เครื่องเปล่าค่าแพงกว่า 2,000-5,000 บาท) ได้สิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือนทุกธนาคาร ส่วนแพ็กเกจรายเดือนขึ้นต้นต้นที่ 350 บาท (โทร. 150 นาที อินเทอร์เน็ตใช้ได้ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 2 GB) และฟรีไวไฟ)เพราะว่าผู้ที่ลงทะเบียนจองซื้อเครื่องหมื่นคนแรกติดฟิล์มกันรอย ฟรี พร้อมทั้งรับเอไอเอส โมบายแคร์ นาน 4 เดือนฟรี

ด้านนายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเปรยว่า กระแสการสั่งซื้อไอโฟน 6 ทั้งสองรุ่นดีกว่าiphone 5s และ 5c กว่า 3 เท่าตัว ด้วยเหตุว่าเครื่องมีลักษณะแตกต่างจากเดิมชัดเจน มีหน้าจอให้เฟุ้งเฟื่องก 2 ขนาด ซึ่งยอดจองiphone 6 และiphone 6 plus มีจำนวนใกล้เคียงกัน พร้อมกับครั้นเมื่อประเทศไทยขึ้นมาเป็น กลุ่ม Tier 1 ที่แอปเปิลให้ความสำคัญ จึงไม่มีปัญหาเรื่องของไม่พอขายแน่นอน

เรายืนยันว่าได้ สินค้ามาบานเบอะที่สุดครั้นเทียบกับคู่แข่ง ทั้งที่ได้มาขายให้ผู้บริโภคทั่วไป พร้อมด้วยแบ่งให้ไอสตูดิโอไปจำหน่ายอีกทาง ดังนั้นมั่นใจได้เลย ครั้งนี้สินค้าไม่ขาดเป็นเดือนเหมือนที่ทะลุทะลวงมาแน่

ครั้ง ซื้อพร้อมแพ็กเกจรายเดือน บุกเบิกต้นที่ 399 บาท จะอยู่ที่ 24,600 บาท, 28,550 บาท พร้อมกับ 32,400 บาท ด้วยว่าiphone 6 ด้วยกัน 28,550 บาท, 32,400 บาท พร้อมทั้ง 36,300 บาท เพราะว่าiphone 6 พลัส ส่วนเครื่องเปล่าแพงกว่าที่ 1,000-3,000 บาท

ส่วน เครื่องเปล่าที่ขายลอด แอปเปิล สโตร์ ในไทย iphone 6 มูลค่า 24,900 บาท, 28,900 บาท พร้อมทั้ง 32,900 บาท iphone 6 พลัส อยู่ที่ 28,900 บาท, 32,900 บาท พร้อมด้วย 36,900 บาท

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (ดีแทค) กล่าวว่า ดีแทคก็มีแพ็กเกจพิเศษ (UP Package) ให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องiphone 6 ด้วยกัน 6 พลัส พร้อมแพ็กเกจ จนกระทั่งใช้บริการครบ 12 เดือน จะได้สิทธิ์แลกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ฟรี ใช่ไหมรับส่วนลดค่าเครื่อง เช่น ในแพ็กเกจ Up1 จ่าย 899 บาท/เดือน โทร.ฟรี 7 โมงเช้าถึง1 ทุ่ม ใช้อินเทอร์เน็ต 3G/4G-ความเร็วสูงสุดที่ 5GB รับส่วนลดจากค่าเครื่อง 19,000 บาท ครั้นเมื่อนำiphone 6 มาแลกซื้อ พร้อมกับรับส่วนลด 20,550 บาท พอนำiphone 6 พลัส มาแลกซื้อ เป็นต้น ถือเป็นครั้งแรกของประวัติส่วนตัวศาสตร์ของวงการที่มีแคมเปญในลักษณะนี้ คาดว่าในสิ้นปีจะมียอดขายกว่าแสนเครื่อง

กระแสiphoneรุ่นใหม่กับรุ่น ที่แล้วดีพอกัน แต่ซัพพลายครั้งนี้ดีกว่าบานตะเกียง เท่าที่ไทยขึ้นเป็นเทียร์ 1 เรื่องของขาดกันแทบจะไม่มี ทำให้เรากระจายเครื่องไปยังช็อปทั่วประเทศได้ตั้งแต่31ต.ค. แต่ไม่สามารถเตือนได้ว่าถ้าเดินเข้าไปซื้อก็จักได้เครื่องเลยไหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ร้านขายโทรศัพท์มือถือในมาบุญครองหลายแห่งประกาศรับซื้อiphone 6 เครื่องศูนย์ทั้ง 2 รุ่น โดยให้สนนราคาเพิ่มจากราคาที่ซื้อตั้งแต่ 500-3,000 บาท เนื่องแต่ประเมินว่าเครื่องในสต๊อกของโอเปอเรเตอร์อาจมีปัญหาไม่พอขายเกิดขึ้น จึงต้องการเก็บเครื่องไว้จำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อในช่วงที่ของขาด ตลาด

ที่มา:http://hitech.sanook.com/1392601

ติดตามข่าวไอโฟน ไอโฟน 6 หรือไม่ข่าวไอทีอื่นๆ ได้ที่ :http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

LG G3 DUAL-LTE จัดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรัสเซียในช่วงต้นเดือนนี้ ในราคามือถือที่ 21,000 บาท



LG ได้มีแผนที่จักโหมโรง LG G3 Dual-LTE ในรัสเซีย เพราะว่าจักทำการเปิดตัวมือถือใหม่ อย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนนี้ พร้อมทั้งจะได้มีการเปิดตัวในราคามือถือ 26,990 รูเบิล ไม่ก็เกือบ 21,000 บาท

ซึ่ง LG G3 Dual-LTE นี้ได้วางขายไปแล้วใน จีน กับ ฮ่องกง ตั้งแต่เดือนกันยายนที่เปลี่ยนมา ซึ่งในช่วงเวลานั้นได้โหมโรงด้วยราคามือถือ 4,998 ดอลล่าร์ฮ่องกง ไม่ก็กะ 21,000 บาท เช่นกัน

เพราะว่ารวมตัวสเปคของ LG G3 Dual-LTE ก็ยังคงเหมือนกับตัวซิมเดียว กับจอ 5.5 นิ้ว QHD IPS,ระบบ Android 4.4.2 KitKat, ประมวลผลด้วย Snapdragon 801 quad-core 2.5GHz, RAM 3GB กล้องอยู่ที่ 13MP พร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh

แต่ว่าตัวนี้จักรองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ด้วยกันเก่งใช้งานซิมการ์ดได้ถึง 2 ซิม เพราะว่าซิมนึงจะรองรับ LTE อีกซิมนึงจะได้แค่ 3G ปกติครับ

ทุกวันนี้ได้ขึ้นต้นจะออกวางขายไปแล้วในประเทศต่างๆ แล้ว คาดว่าน่าจะมีมาไทยแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว เพราะว่าระยะนี้ 4G ของแต่ละเจ้าก็ริเริ่มทะยอยเปิดให้บริการกันบ้างแล้ว

ที่มา: gsmarena

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>>  http://thaizones-hitech.blogspot.com/ 

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เพราะเหตุใด iPod Classic ถึงแม้ไม่มีขายแล้ว ?

ในขณะที่ทั้ง iPhone, iPad รวมไปถึงผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ จากแอปเปิล มีรุ่นต่อยอดออกมาอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องด้วย  Classic นั้น ก็เพราะว่าเหตุใด แอปเปิลถึงเลิกขายแล้ว ล่าสุด Tim Cook ได้ออกมาไขข้อข้องใจเป็นที่เรียบร้อยครับ



โดย Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิล ได้ออกมาเปรยว่า สาเหตุที่ แอปเปิล ต้องยกเลิกจำหน่าย iPod Classic เป็นเพราะว่า วัสดุที่ใช้ผลิตหาไม่ได้อีกแล้ว เพราะว่าเฉพาะฮาร์ดดิสก์ขนาด 1.8 นิ้ว ที่ทาง Toshiba เลิกผลิตไปแล้ว ประกอบกับจำนวนความต้องการ iPod Classic มีน้อยลง ทำให้ต้องยกเลิกการผลิต พร้อมด้วยเลิกขาย iPod Classic นั่นเอง


ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com/